Red Agate กับประสบการณ์ผ่าซีสต์ฉุกเฉิน

วันนี้แอดมินมีประสบการณ์เกี่ยวกับหินอาเกต ที่ขึ้นชื่อเรื่องหินที่เสริมพลังงานด้าน สุขภาพแข็งแรงของฮอร์โมนหญิง เกี่ยวกับความสมดุลในร่างกายเพศหญิง ลองมาดูประสบการณ์ตรงนะคะ ที่เขียนแชร์ เกี่ยวกับการผ่าซีสต์ฉุกเฉิน ค่ะ

RED AGATE

วันที่ 30 พ.ค. 65 เราเกิดปวดท้องหนักขึ้นมากระทันหัน ปวดมาก ๆ จนต้องหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ ทำยังไงก็ไม่หายปวด และคิดว่า ถ้านอนแล้วตื่นมายังไม่หาย ก็จะไปหาหมอ

ตอนตื่นมา สิ่งที่ขออย่างแรกเลยคือ ขอให้หายปวด แต่ก็น่าเศร้าที่มันไม่หาย พอขยับแล้วปวดมาก ก็เลยต้องรีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน พอไปถึงแล้วแพทย์ก็พาเราไปตรวจภายใน พบก้อนซีสต์ขนาดโต 5 cm ข้างหนึ่ง อีกข้าง 2-3 cm หมอก็แนะนำให้หาโรงพยาบาลรัฐแอดมิทด่วน เพราะที่นี่เอกชนค่ารักษามันแพงมาก ๆ

เราจำใจกลับมาบ้าน และเตรียมของเพื่อที่จะไปโรงพยาบาลรัฐ สิ่งที่เราตั้งใจหยิบไปเลยคือ “Red Agate” หรือหินสีแดงที่อยู่ในรูปนั่นเอง เพราะอาเกตสีแดงมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องระบบภายใน โดยเฉพาะบริเวณ womb area หรือมด (เราจะไม่เรียกว่ามดลูก เพราะมันคือการตีตราว่าบริเวณนี้มีเพียงให้กำเนิดทารกเท่านั้น เราจะเรียกว่า womb area หรือ มด เพราะมันคือพื้นที่ ไม่ใช่อวัยวะ ต่อให้คนที่ตัดมดลูกออกไปก็ยังสามารถทำงานกับบริเวณนั้นได้เสมือนเป็นขุมพลังงาน ทั้งนี้คำว่า มด ยังมีความหมายในทางเวทมนตร์และจิตวิญญาณตั้งแต่โบราณ แต่คงจะเล่าไม่หมดในนี้)

พอเราไปถึงโรงพยาบาลรัฐช่วง 17.00 น. เราก็ถูกเจ้าหน้าที่ให้แอดมิททันที สิ่งที่เราหยิบไปที่เตียงด้วยคือ Black tourmaline และ Red agate ในขณะที่รอบนเตียง ICU ก็โดนตรวจโดนเจาะจนตัวพรุน ผลสรุปว่าซีสต์ของเราน่าจะบิดขั้ว

เรารอนานมาก ๆ แต่ในระหว่างนั้น เราก็หยิบหินขึ้นมาวางไว้บริเวณมดของเราตลอด และภาวนาขอให้เขาส่งพลังงานมาบรรเทาอาการ ต่อมาอยู่ ๆ ก็เริ่มปวดน้อยลง พยาบาลสันนิษฐานว่า ซีสต์เขาน่าจะบิดกลับมาเอง (5555)

รอแล้วรอเล่า ก็ได้เข็นเตียงไปผ่าตอนตี 2 เป็นการผ่าตัดฉุกเฉินแบบที่เราเองก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ผ่าทันที และเป็นการผ่าตัดใหญ่เหมือนผ่าคลอด ถึงอย่างนั้น การผ่าตัดก็ผ่านไปได้ด้วยดี ตอนฟื้นก็เจ็บปวดแผลมาก ๆ

ตอนที่ได้ย้ายไปห้องพิเศษ แม่ก็เอาของในกระเป๋าเรามาให้ รวมถึงหินอาเกตของเรา เราก็รีบเอาเขาออกมาสื่อสาร และเอาเขาไว้ติดตัวตลอด
(ก่อนที่จะได้ย้ายมาในห้องนี้ เราอยู่ห้องเดียวกับพี่ผู้หญิงที่ถูกตัดอวัยวะมดลูกออกไป เราจึงคิดว่า หินอาเกตของเราก็คงภาวนาให้เขาเช่นกัน)

และแล้วก็มีความมหัศจรรย์ที่เราฟื้นตัวเร็วมาก ๆ อาจจะเพราะอายุที่ยังน้อย ในวันที่ผ่าเสร็จ เราก็เจริญอาหารมาก ๆ ถึงแม้จะขยับตัวไม่ค่อยได้ แต่ไม่เบื่ออาหารเลย นอกจากนี้ความพยายามในการที่จะเดินกระตุ้นลำไส้ก็เป็นไปได้ด้วยดี

เรานอนโรงพยาบาลแค่สองวัน คือวันแรกที่ผ่าตัด และวันที่สองอยู่เต็มวัน พอถึงวันที่สามก็ได้ออกจากโรงพยาบาล แผลผ่าตัดไม่ปริ และถือว่าฟื้นตัวเร็วมาก ๆ สำหรับการผ่าตัดใหญ่ ^^

Timeline
30 พค – ปวดท้อง
31 พค – แอดมิทที่โรงพยาบาล
1 มิย – ผ่าตัด (ตอนตี2)
2 มิย – พักฟื้น
3 มิย – กลับบ้าน

ในขณะที่เราอยู่โรงพยาบาล ถึงแม้เราจะพลังน้อยมาก ๆ จากความเจ็บป่วย แต่เราก็พอจะรู้ว่าน้องหินก็คงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเยียวยาภายในของเราไปพร้อม ๆ กับการรักษาของแพทย์ 😉

ท้ายที่สุด อยากเล่าว่าในระหว่างที่เรานอนรอผ่าตัด เราไม่เหงาเลย เพราะในโรงพยาบาลมีเพื่อน(ทางจิตวิญญาณ)ที่มาให้กำลังใจเยอะมาก ๆ 😅 พอชินแล้วก็ไม่น่ากลัวนะ เขาแค่เข้าใจเรา และอยากส่งพลังให้ ^^

ขอบคุณเรื่องราวจาก memeemushroom ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นการดูแลสุขภาพของตัวเอง กินอาหารให้ครบหมู่ ออกกำลังกาย ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ

Let's share this post !
TOC